แหวนแต่งงานใช้กี่วง?

จากบทความที่แล้วที่ได้รู้ว่าแหวนหมั้นกับแหวนแต่งงานเป็นแหวนคนละวงกันแล้ว เรายังได้รู้ถึงที่มาและความหมายของแหวนหมั้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนอาจตั้งคำถามว่า อ้าว! แล้วแหวนแต่งงานล่ะ คืออะไร? ใช้ตอนไหน? ดังนั้น วันนี้เราจะได้รู้ถึงความแตกต่างและตัดสินใจเลือกรูปแบบแหวน ให้เหมาะสมกับงานแต่งงานของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจถึงประวัติ ความเป็นมาของแหวนแต่งงานกันก่อน ที่มาของแหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงานนั้นมาจากวัฒนธรรมของศาสนาคริสต์ ที่พิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้นในโบสถ์ ทำพิธีโดยบาทหลวงและจะมีช่วงเวลาพิเศษในการแลกแหวนแต่งงานเพื่อเป็นสัญญาว่าทั้งสองจะรัก ดูแลซึ่งกันและกันตราบจนชีวิตจะหาไม่ และแหวนที่ใช้แลกเปลี่ยนให้กันจะใช้เป็นแหวนทองคำแบบเกลี้ยง เพราะ ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ถือเป็นความรักที่บริสุทธิ์และเป็นนิรันดร์ และจะสวมทับ “แหวนหมั้น” ที่ฝ่ายชายได้มอบให้ในวันที่คุกเข่าขอแต่งงาน

ดังนั้นฝรั่งจึงมีแหวนสองวงที่สวมทับซ้อนคู่กัน วงหนึ่งเป็นแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวแบบชู อีกวงหนึ่งเป็นแหวนเกลี้ยง หรือ แหวนเพชรแถว ที่เรียกกันอีกชื่อว่า Eternity Ring นั่นเอง

ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม หรือ ธรรมเนียมใดก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ชาวคริสต์เองก็เช่นกัน เพราะ บางครอบครัวก็ไม่จำเป็นต้องจัดงานแต่งงานแต่ในโบสถ์เท่านั้น สามารถจัดในสถานที่อื่นๆได้แล้วแต่ความสะดวก (แต่ทั้งนี้อย่าลืมว่าฝรั่งเขาไม่มีพิธีหมั้นแบบไทยเรานะ) ส่วนชาวไทยเราเองก็ได้มีการประยุกต์ปรับเปลี่ยนพิธีการ ประเพณี โดยมีการผสมผสานทั้งธรรมเนียมของไทย และ ฝรั่ง เข้าด้วยกัน หรือบางครอบครัวก็มีธรรมเนียมของจีนด้วย ตามความเหมาะสมและความเห็นชอบของผู้ใหญ่แต่ละฝ่าย ดังนั้นแล้วด้วยธรรมเนียมที่หลากหลายของวัฒธรรม ประเพณี ความเชื่อ จึงทำให้แหวนแต่งงานของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงแหวนหมั้น และแหวนแต่งงานที่จะใช้สวมใส่ในชีวิตประจำวันอีกด้วย โดยส่วนมากคนไทยเราจะนิยมสวมแหวนหลังงานแต่งงานแค่วงเดียว ตามความชื่นชอบและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ฝ่ายหญิงจะเลือกสวมแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวที่มีขนาดเล็กลงมาจากแหวนหมั้น หรือ แหวนเพชรแถว , แหวนเกลี้ยง แต่หากวันไหนที่ต้องออกงานสำคัญก็จะเปลี่ยนเป็นสวมแหวนหมั้นแทน หรือ เลือกสวมใส่คู่กันทั้งสองวง

รูปแบบแหวนแต่งงาน