สงคราม เงินเฟ้อ โควิด: อะไรทำให้ราคาเพชรและทองสูงขึ้นในปี 2565?

date blog icon

23 Mar 2022

date blog icon

-

สงคราม เงินเฟ้อ โควิด: อะไรทำให้ราคาเพชรและทองสูงขึ้นในปี 2565?

เข้าปี 2565 มาได้ไม่นาน หลายคนน่าจะเห็นถึงการปรับตัวพุ่งขึ้นของราคาเพชรและราคาทองคำ ตอบรับกับทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์โลกที่น่ากังวลมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

โดยในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ราคาทองคำ 1 บาททะยานขึ้นไปแตะระดับ 30,000 บาท เกือบสูงสุดในรอบ 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่จบไตรมาสแรก และในเพียงระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่ธันวาคม 2564 - กุมภาพันธ์ 2565 ราคาเพชรได้ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 8.5% เช่นกัน โดยมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับสูงขึ้นอีกตลอดปี 2565

 

จึงเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ธุรกิจการค้าเพชรและทอง ต้องปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้ความผัวผวนที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าสถาณการณ์โควิด-19 จะลดความรุนแรงลงแต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมถึงสถานการณ์โลกที่เริ่มน่าเป็นห่วง ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยแม้ราคาเพชรและทองจะปรับขึ้นพร้อมกันแต่ก็เกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกันพอสมควร จะมีปัจจัยอะไรบ้าง เราจะมาวิเคราะห์สาเหตุไปพร้อมๆ กัน

 

เพชร

 

ธรรมชาติของราคาเพชร

 

การซื้อขายเพชรจะมีราคากลางกำกับเช่นเดียวกันกับทอง แต่เพชรอาจไม่ได้ถูกมองเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากเท่าทองคำ เนื่องจากราคาเพชรที่มีการขึ้นลงเป็นผลมาจากกลไกตลาดของ Demand และ Supply เป็นหลัก จึงไม่เห็นความผัวผวนและการเติบโตของราคาได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัจจัยด้านสภาพการณ์ของโลกเองก็สามารถกระทบกับราคาเพชรได้เช่นกัน ไม่ว่าจะที่กระทบไปที่พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภค(Demand) และความสามารถในการผลิตของเหมืองเพชรด้วย(Supply)

 

มากไปกว่านั้นการที่เพชรเป็นผลผลิตจากธรรชาติที่ไม่สามารถควบคุมการผลิตได้เลย จึงทำให้ปัจจัยภายในของเพชรแต่ละเม็ด ที่ถ้ายิ่งเป็นเพชรที่มีขนาดและสเป็คหายากมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีราคาสูงและคุ้มค่าแก่การลงทุนในระยะยาวมากเท่านั้น โดยเฉพาะราคาในเพชรขนาด 1 กะรัตขึ้นไป จะเห็นได้ชัดว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นต่างจากเพชรขนาดอื่น หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติ 4Cs ที่สะท้อนสเป็คเพชร และเรื่องธรรมชาติของราคาเพชรสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่บทความ: ราคาเพชรที่เหมาะสมคือเท่าไร?

 

ราคาเพชรปี 2565: เทรนด์ Emotional Gifting พร้อมความต้องการเพชรล้นทะลักช่วงโควิดซา

ราคาเพชรในปี 2565 ยังคงพุ่งสูงต่อเนื่อง โดยเปรียบเทียบราคาปีต่อปีอัพเดตเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ราคาเพชร 1 กะรัตปรับตัวขึ้นสูงถึง 32.3% โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบ คือ:

          1. โควิด-19 ส่งผลต่อ Demand/Supply

ในช่วงเริ่มต้นสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากความตื่นตระหนกของทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตเกี่ยวกับโรคระบาด ทำให้ความต้องการเพชรลดลงแม้ผู้ผลิตจะพยายามระบายสินค้า ราคาเพชรจึงได้ตกลงอย่างมีนัยสำคัญ

แต่เมื่อผู้คนเริ่มปรับตัวเข้ากับโควิด-19 ได้ ยอดขายเพชรก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่เนื่องจากมาตรการล็อคดาวน์ทั่วโลกได้ทำได้ความสามารถในการผลิตเพชรมีไม่พอป้อนความต้องการของตลาด โดยมีเพชรมากถึง 111 ล้านกะรัตหายไปจากตลาด ราคาจึงยิ่งปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ

โดยในปี 2564 De Beers ผู้ผลิตเพชรดิบรายใหญ่ของโลก มียอดขายสูงถึง 4.82 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากถึง 41% จากยอดขายปี 2563 ที่ 2.81 พันล้านดอลลาร์ จึงสะท้อนความต้องการเพชรในยุค New Normal ได้เป็นอย่างดี

          2. การมอบของขวัญแทนการพบปะ (Emotional Gifting)

อันที่จริงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเช่นนี้ก็มาจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยเช่นกัน โดยทาง Rapaport ก็ได้มีการนำเสนอสภาพตลาดเพชรในปลายปี 2564 ว่าผู้คนหันมาส่งของขวัญแทนการพบหน้ากันมากขึ้น และผู้บริโภคก็นิยมมอบของที่สื่ออารมณ์ความรู้สึกจากใจ จากความรู้สึกเห็นอกเห็นใจกันที่มากขึ้นเมื่อต้องผ่านวิกฤตโรคระบาดไปพร้อมๆกัน

ทำให้เพชรกลายเป็นตัวเลือกของขวัญอันดับต้นๆที่ผู้คนจะเลือกซื้อในฐานะของขวัญแทนใจ (Emotional Gift) ให้แก่กันนั่นเอง

นี่ยังไม่นับถึงความต้องการเพชรอย่างล้นหลามเมื่อมาตรการโควิด-19 ผ่อนคลายลงทั่วโลก ทำให้การจัดงานแต่งงานกลายมาเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูอีกครั้งด้วยคิวจองจัดงานแต่งยาวเหยียด พลอยทำให้ดีมานด์แหวนเพชรแต่งงานเพิ่มขึ้นจำนวนมากตามไปด้วย

 

ข้อแนะนำในการลงทุนเพชร ช่วงครึ่งแรกของปี 2565

 

เราจะเห็นได้ว่า Demand และ Supply เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาเพชรเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปี 2564 และต้นปี 2565 หากต้องการซื้อเพชรเพื่อการลงทุนในระยะยาว ควรเลือกเพชรที่มีขนาด 1 กะรัตขึ้นไปเพราะมีระดับราคาที่เสถียรและปรับขึ้นเสมอ รวมถึงเลือกซื้อเพชรโดยเน้นที่ความหายากเป็นหลักเพราะมี Supply จำกัดที่จะช่วยดันราคาให้สูงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นขนาดกะรัตใหญ่ๆ, เพชรน้ำ 100% D Colour, เพชรความสะอาดระดับ Flawless, และเพชรที่มีคุณภาพการเจียระไนระดับ Excellent โดยต้องมีใบเซอร์เพชรกำกับเพื่อสามารถขายต่อได้ในภายหลัง

 

นอกจากนี้ เพชรสีแฟนซีก็กำลังเป็นที่จับตามองและหายากยิ่งขึ้น รวมถึงเพชรที่มาจากแหล่งผลิตที่มีคุณธรรม (Ethical Sourcing) ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้เพชรก็เริ่มเป็นที่ต้องการ จึงน่าซื้อหามาสะสมไว้เพื่อการลงทุนเช่นกัน

 

ทองคำ

 

ธรรมชาติของราคาทอง

 

ผู้คนซื้อทองคำเพราะมักมองว่าสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในการลงทุน เพราะทองมีมูลค่าที่มั่นคงมากกว่า “เงินสด” โดยธรรมชาติของราคาทองซึ่งใช้ราคากลางในการซื้อขายมักปรับเปลี่ยนตามสภาพการณ์ของตลาดโลกโดยเฉพาะในยามสงคราม ยามเกิดภาวะเศรษฐกิจที่เงินสดมักถูกลดค่าลง หรือช่วงที่มีการลดดอกเบี้ย เราจึงเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในยามบ้านเมืองลำบาก เพราะมีความต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มั่นคงปลอดภัยแทนที่เงินสดเก็บเอาไว้นั่นเอง

 

ราคาทองปี 2565: เงินเฟ้อ เพดานดอกเบี้ย การเมืองโลก ดันราคาให้พุ่งทะยาน

ราคาทองคำตั้งแต่ 3 มกราคม 2565 - 3 มีนาคม 2565

ปี 2565 เรียกได้ว่ายังเป็นปีที่ไม่สู้ดีนักสำหรับสถานการณ์โลก ยิ่งทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นในช่วงไตรมาสแรก โดยมี 3 ปัจจัยที่สำคัญ คือ:

 

          1. ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

สหรัฐอเมริกาในขณะนี้มีภาวะขาดดุล นั่นก็คือมีรายได้น้อยกว่ารายจ่ายและมีหนี้สาธารณะที่สูงถึง 28 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ 125% ของ GDP เลยทีเดียว รวมถึงสหรัฐฯยังมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องอยู่ที่ 7.5% ในเดือนมกราคม 2565 จากความพยายามที่จะอัดฉีดเม็ดเงินมากถึง 6-7 ล้านล้านดอลลาร์ ปัจจัยด้านเงินเฟ้อนี้ทำให้การถือครองทองคำเท่ากับเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่มูลค่าเงินสดจะลดลงเรื่อยๆจากเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง

          2. อัตราดอกเบี้ยติดเพดาน

แม้จะมีการคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Bank - เรียกสั้นๆว่า Fed) อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2565 และดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาขึ้น แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่เสถียร ภาวะเงินเฟ้อและหนี้สาธารณะที่สูง ก็อาจทำให้ Fed ไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้มากเพื่อไม่ให้มูลค่าหนี้สูงไปกว่านี้ รวมถึงถ้าหากคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ซึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ยหักลบด้วยอัตราเงินเฟ้อ ก็ยังติดลบอยู่ดี ทำให้หากราคาทองคำลดต่ำลงด้วยปัจจัยอื่นๆในอนาคต ก็ไม่อาจลดลงได้มาก

          3. สถานการณ์โลกตึงเครียด

แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้นมากทั่วโลกด้วยเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนที่ไม่รุนแรงมาก และการเร่งฉีดวัคซีนในหลายประเทศ แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีการกลายพันธุ์ของไวรัสอีกหรือไม่ จึงยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หนำซ้ำในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 รัสเซียก็ได้เปิดฉากโจมตียูเครนหลังจากอยู่ในภาวะตึงเครียดมาหลายสัปดาห์ระหว่างรัสเซีย ยูเครน และพันธมิตร NATO ด้วยสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ ยิ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้คนแห่ซื้อทองเก็บไว้เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงิน โดยในวันเดียวกันหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน ราคาทองก็พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 30,000 บาท (ราคาสูงสุดในรอบ 10 ปีจะอยู่ที่ 30,400 บาท) หลังมีการปรับราคามากถึง 17 รอบในวันเดียว

 

ข้อแนะนำในการลงทุนทอง ช่วงครึ่งแรกของปี 2565

 

สถานการณ์การเมืองโลกที่ตึงเครียดเช่นนี้เคยส่งผลกระทบต่อราคามองคำมาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2560 ที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธโดยยิงไปที่ภาคเหนือของญี่ปุ่น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในช่วงแรกที่ทุกคนตื่นตระหนก ก็จะรีบซื้อทองคำเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร เมื่อผ่านไปสักพักราคาจะตกลงเมื่อนักลงทุนต่างเทขายทองเอากำไร และเมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป ราคาก็อาจปรับเปลี่ยนตามปัจจัยอื่นๆแทน

 

ดังนั้นแล้ว หากคุณเป็นนักลงทุนทองในระยะสั้นๆ เราแนะนำให้ผู้ที่สนใจลงทุนซื้อทองคอยจับตาดูสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด โดยต้องจับตาดูทั้งนโยบายจาก Fed ที่พยายามจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่แม้หากปรับขึ้นเพียง 0.25% ก็อาจส่งผลลบต่อราคาทองได้ และภาวะการเมืองโลกที่เป็นตัวกำหนดราคาทองคำให้พุ่งสูงในขณะนี้ เพื่อที่จะสามารถเก็งกำไรได้ถูกจังหวะ (เว้นแต่ว่าวิกฤตการณ์ยูเครนจะยืดเยื้อและส่งผลรุนแรงกว่าที่คิด การลงทุนทองในระยะยาวก็อาจส่งผลดีกว่าหากคุณสามารถเข้าซื้อได้ทัน)

 

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อทองเก็บไว้ในระยะยาวในปี 2565 เราก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเช่นกันที่จะรอช้อนซื้อเมื่อราคาทองตกลงหากสถานการณ์ยูเครนเริ่มคลี่คลาย โดยแม้คาดการณ์ว่าราคาอาจจะตกลงไม่มาก แต่ก็สามารถสร้างกำไรได้ในระยะยาวจากภาวะเศรษฐกิจและการเงินโลกโดยรวมที่ไม่ค่อยสู้ดีในปีนี้นั่นเอง

 

แม้สถานการณ์โลกในปี 2565 จะดูไม่สดใส ทั้งจากภาวะการเมือง เศรษฐกิจ และโรคระบาด แต่ภาวะเหล่านี้กลับทำให้ราคาทองและเพชรพุ่งสูงแบบฉุดไม่อยู่ ด้วยความต้องการครอบครองแร่และอัญมณีมีค่าหายากแทนเงินสด เพชรและทองก็ดูจะเป็นสิ่งที่ช่วยรับประกันความมั่นคงทั้งทางด้านการเงินและด้านจิตใจในโลกที่วุ่นวายปีนี้ได้ หากคุณต้องการหาเพชรเม็ดสวยหายากเพื่อเก็บสะสมสำหรับการลงทุน ก็สามารถติดต่ออนันทาเพื่อรับคำปรึกษาได้เลย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://investingnews.com/
https://www.diamonds.net/
https://www.aljazeera.com
https://www.prachachat.net/
https://www.moneybuffalo.in.th/
https://www.ryt9.com/
https://www.bullionvault.com/
https://www.diamondse.info/

 

RELATED stories